การผลัดเซลล์ผิวเป็นกระบวนการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออกจากผิวชั้นนอก โดยธรรมชาติของผิวหนังคนเราจะผลัดเซลล์ผิวเป็นระยะ ตั้งแต่ 3 – 4 สัปดาห์โดยเฉลี่ย เซลล์ผิวเก่าเสื่อมสภาพหลุดลอกออกเอง แล้วมีการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน เซลล์เกิดใหม่จะมีความชุ่มชื้น สวยงาม ผิวหน้าขาวใส ลดริ้วรอยเล็ก ๆ และอ่อนเยาว์ขึ้น เซลล์ผิวใหม่หมุนเวียนให้ใบหน้าสดใสอวบอิ่มอยู่เสมอ เมื่ออายุมากขึ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวช้าลง จึงจำเป็นต้องนำผลิตภัณฑ์และวิธีการต่าง ๆ มาใช้กระตุ้นวงจรการผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้น
ทำไมต้องใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
การผลัดเซลล์ผิวเป็นขั้นตอนสำคัญ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ จึงมีผสมสารที่ช่วยขัดผิวเก่าเสื่อมสภาพและสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นทดแทน หากเซลล์ผิวเก่าที่เผชิญกับแสงแดด ควัน ฝุ่นละออง และมลภาวะจนหมองคล้ำเสื่อมสภาพลงแต่ไม่หลุดออกไป เซลล์ผิวที่ตายแล้วจะทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ ผิวหน้าไม่สดใส เป็นจุดรวมของสิ่งสกปรกและสะสมขี้ไคล ทำให้เกิดสิวอุดตันได้ง่าย รูขุมขนกว้าง เมื่ออายุมากขึ้นและกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติช้าลง สิ่งสกปรกเกาะรวมตัวกันชะลอการสร้างเซลล์ผิวใหม่มาทดแทน กระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิวลดประสิทธิภาพทำให้ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย เป็นสิว เกิดริ้วรอยและผลเสียหลายประการ
ความจำเป็นที่ต้องเร่งวงจรการผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้นช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้นและสวยงามได้ด้วยตัวเอง โดยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอยู่เรื่อย ๆ สร้างเซลล์ผิวใหม่มาทดแทนพร้อมกับการใช้ครีมบำรุงผิวเป็นประจำเพื่อสร้างเกราะป้องกันผิว เพราะผิวใหม่ดูดซึมครีมบำรุงได้ดีกว่าเดิม จึงเปล่งปลั่งสดใส ยืดหยุ่น มีสุขภาพดี ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ไม่ต้องกังวลปัญหาสิวเสี้ยนและสิวอักเสบที่เกิดจากรูขุมขนอุดตัน จุดด่างดำและรอยแผลเป็นลดลง ผิวขาวกระจ่างใสอ่อนเยาว์ขึ้น ตอบโจทย์คำถามได้ชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวมีความจำเป็นอย่างไร
เลือกผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวให้เหมาะกับสภาพผิว
ถ้าคุณเลือกที่จะผลัดเซลล์ผิวให้เร็วกว่าปกติ ทำอย่างไรจึงมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ไม่เกิดความเสียหายต่อผิวหรือทำให้เกิดรอยแดงหรือสิวขึ้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทอาจไม่เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว สิ่งสำคัญคือจะต้องพิจารณาผิวของคุณก่อนที่จะเลือกผลิตภัณฑ์และกรรมวิธีการขัดที่เหมาะกับสภาพผิวเราด้วย จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีอาการข้างเคียงจากการใช้น้อยที่สุด
-ผิวบอบบางอาจเกิดรอยแดงหรือรอยไหม้หลังการใช้ผลิตภัณฑ์
-ผิวธรรมดา มีสุขภาพดีและไม่มีความรู้สึกไวเกินไป
-ผิวแห้งลอกเป็นขุย คัน หรือหยาบกร้าน
-ผิวมันวาวและมันเยิ้ม
-ผิวผสมแห้งบริเวณแก้มและผิวน้ำมันบริเวณทีโซน
การผสมสารเคมีช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวหนังให้ลอกหลุดได้ง่าย หรือแม้แต่การใช้ส่วนผสมที่ใช้จะทำมาจากธรรมชาติก็ตาม หากเลือกไม่ถูกต้องอาจเป็นอันตรายมากกว่าเป็นผลดี เพราะแต่ละคนมีสภาพผิวแตกต่างกัน สูตรอ่อนโยนอาจขจัดเซลล์ผิวเก่าไม่ทั่วถึง หรือสูตรเข้มข้นทำให้ผิวระคายเคือง การขัดผิวด้วยเม็ดสครับอาจจึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวไวต่อการกระตุ้น ผิวแห้ง และผิวระคายเคืองง่าย ก่อนอื่นเราต้องทำความรู้จักผิวของเราและทำความเข้าใจคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ แล้วเลือกนำมาใช้อย่างถูกวิธี ไม่เสี่ยงลองผิดลองถูกจนเกิดผลเสียและเป็นอันตรายต่อผิว
การขัดผิวมี 2 วิธีหลัก
-วิธีแรกคือ การใช้เครื่องมือ เช่น แปรงหรือฟองน้ำขัดผิวเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป รวมถึงเมคอัพต่าง ๆ ที่ตกค้างบนผิวที่เป็นสาเหตุทำให้ผิวอักเสบเป็นสิวง่าย
-วิธีที่สองคือ การขัดสีด้วยสารเคมีประเภทกรด AHA และ BHA เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วอย่างอ่อนโยน สารทั้งสองชนิดเป็นสารสกัดในลักษณะกรด มีผสมอยู่ในครีมบำรุงผิวและเครื่องสำอางหลายชนิด ต้องพิจารณาเลือกให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวหนัง อาจมีผลให้ผิวบางลงและเสี่ยงผิวไหม้แดดในกรณีที่ต้องอยู่กลางแจ้งในตอนกลางวัน
แนะนำเคล็ดลับการการขัดผิวเพื่อป้องกันการระคายเคือง ดังต่อไปนี้
ตรวจเช็คผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ใช้อยู่แล้ว ผลิตภัณฑ์ครีมที่มีเรตินอยด์ช่วยรักษาสิวและลดริ้วรอย ทำให้ผิวบาง มีความไวและแพ้ง่าย การทาผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวอาจทำให้ผิวแห้งหรือเกิดสิวได้
เลือกวิธีการขัดผิวที่เหมาะกับสภาพผิว คนผิวแห้ง แพ้ง่าย หรือเป็นสิวอาจต้องการเพียงแค่ผ้าขนหนูและผลิตภัณฑ์ขัดผิวสูตรอ่อนโยน เนื่องจากการขัดผิวอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อผิวหนัง ส่วนคนผิวมันและผิวแข็งแรงอาจต้องการใช้สารเคมีเข้มข้นหรือผงสครับขัดผิว อย่างไรก็ตาม หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีหรือวิธีการขัดผิวรุนแรง ถ้าคุณมีสีผิวคล้ำหรือสังเกตเห็นจุดด่างดำบนผิวหลังถูกแดดเผา แมลงกัด หรือรอยแผลเป็นจากสิว การขัดผิวรุนแรงอาจส่งผลให้เกิดจุดด่างดำบนผิวได้ง่าย
ขัดผิวอย่างนุ่มนวล ถ้าคุณใช้สครับหรือสารขัดผิว ให้ทาผลิตภัณฑ์เบา ๆ ใช้นิ้ววนเป็นวงกลมเล็ก ๆ ประมาณ 30 วินาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ถ้าคุณใช้แปรงหรือฟองน้ำขัด ให้ขัดสั้น ๆ เบา ๆ โดยทั่วไปการขัดผิวรุนแรงไม่เกิดผลดี อาจทำให้ผิวแดงและระคายเคือง ข้อห้ามสำคัญคือไม่ควรขัดผิวในกรณีที่มีแผลเปิดหรือบาดแผล หรือผิวถูกแดดเผา
บำรุงผิวด้วยสกินแคร์ การขัดผิวทำให้ผิวบางและแห้ง ทาครีมบำรุงผิวทันทีหลังจากขัดผิวแล้ว เพื่อฟื้นฟูและบำรุงผิวของคุณให้แข็งแรงและชุ่มชื้น
ความแตกต่าง AHA และ BHA เป็นอย่างไร
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA สกัดมาจากธรรมชาติ จะกำหนดความเข้มข้นประมาณ 3-12% ขึ้นไป ความเข้มข้นน้อยเกิดการระคายเคืองผิวน้อยกว่า ส่วน BHA นั้นเป็นสารสังเคราะห์ที่นิยมผสมในโฟมล้างหน้าและครีมรักษาสิว มีความเข้มข้นมากกว่า ทำให้เซลล์ผิวเก่าลอกหลุดได้เร็วขึ้น ไม่เหมาะกับผิวแห้ง ผิวบอบบาง เพราะอาจรู้สึกระคายเคือง เกิดอาการแพ้และผิวลอกเป็นขุยได้ง่าย การผลัดเซลล์ผิวได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง หากจะขัดผิวด้วยตัวเองก็ควรมีความรู้เกี่ยวกับกรดและสารขัดผิว เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ หลังผลัดเซลล์ผิวใหม่ ๆ ควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวเป็นประจำ ตามด้วยครีมกันแดด เมื่อใช้อย่างถูกวิธีจึงจะเกิดผลลัพธ์ที่ดี