ผู้หญิงเอเชียใช้เวลาดูแลบำรุงผิวประจำวันอย่างจริงจัง เราทุกคนรู้ว่าผิวคนเอเชียมีความแตกต่างมากเมื่อเทียบกับผิวของกลุ่มชาติพันธุ์อื่น สิ่งที่ทำให้ผิวแตกต่างออกไปเป็นผลสืบเนื่องจากมรดกทางพันธุกรรมและสภาพอากาศ โดยเฉพาะผิวหนังชั้นนอกสุดบอบบาง มีแนวโน้มเกิดการระคายเคืองและแพ้สารเคมีง่าย มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยแวดล้อมภายนอก ทั้งแสงแดด มลภาวะและสารเคมีซึ่งทำให้ความสมดุลของผิวลดลง เอกลักษณ์ของผิวเอเชียต้องใช้วิธีการดูแลที่แตกต่างกัน ทุกวันนี้เทรนด์สาวเอเชียพอใจผิวขาวผ่องใส การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวบ่อย ๆ หรือผสมกรด AHA เพื่อขจัดผิวชั้นนอกเร็วขึ้น ทำให้ผิวบอบบางและไวต่อความร้อนมากกว่าเดิม เพิ่มความเสี่ยงเกิดอาการหน้าลอกและผิวไหม้แดด จำเป็นต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างระมัดระวัง
1.ผิวอ่อนเยาว์แบบสาวเอเชีย
ผู้หญิงเอเชียมักดูอ่อนกว่าวัยเมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงจากทวีปอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน สิ่งที่ทำให้ผิวของสาวเอเชียชะลอวัยและต่อต้านริ้วรอยได้นานขึ้น ความลับคือผิวชั้นในของชาวเอเชียหนากว่า ผิวหนังชั้นหนังแท้เป็นชั้นผิวสำคัญที่มีคอลลาเจนและอีลาสตินทำงานควบคู่กันช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ โดยคอลลาเจนทำหน้าที่สร้างความแข็งแรงและสมานแผล คุณสมบัติของอีลาสตินทำให้ผิวหนังยืดหยุ่นและไม่มีริ้วรอย คอลลาเจนและอีลาสตินในเซลล์ผิวธรรมชาติเพิ่มความกระชับเต่งตึงให้ผิว
2.ผิวสาวเอเชียอ่อนไหวมาก
สาวเอเชียมีผิวหนังชั้นนอกบาง เป็นผิวหนังชั้นปกคลุมหนังกำพร้าที่ป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันความร้อน ความเย็นและสารเคมีที่ระคายเคืองผิวได้ พร้อมทั้งป้องกันการสูญเสียน้ำผ่านทางผิวหนังอีกด้วย ผิวหนังชั้นนอกนี้มักเรียกกันว่าผิวชั้นขี้ไคลที่จำเป็นต้องผลัดเซลล์เก่าเสื่อมสภาพออกเพื่อไม่ให้อุดตันรูขุมขนและเกิดการอักเสบเป็นสิว ควรระมัดระวังเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมเข้มข้น สาวเอเชียอาจต้องการผลิตภัณฑ์สำหรับผิวบอบบางโดยเฉพาะ หรือปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อขอคำแนะนำก่อนใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์เร่งผลัดเซลล์ผิวที่เข้มข้นที่มีความเสี่ยง หลีกเลี่ยงวิธีการขัดผิวที่รุนแรง
3.เกิดรอยแผลเป็นง่ายกว่า
ผิวสาวเอเชียเป็นพันธุกรรมที่มักมีแผลเป็นง่ายกว่าชนชาติอื่น โดยเฉพาะแผลเป็นจากสิว เหตุผลก็คือผิวชั้นนอกบอบบาง ผิวชั้นนอกประกอบด้วยเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ทำหน้าที่ปกป้องไม่ให้สิ่งสกปรกหรืออันตรายเข้าสู่ร่างกาย หากชั้นนอกมีความเปราะบาง รอยสิวจะหายยากเต็มที ควรปกป้องผิวด้านนอก ดูแลรักษาสมดุลของผิวเพื่อลดอาการอักเสบ ป้องกันการเกิดสิว ต้องใช้วิธีการรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดรอยแผลเป็น ผิวบางเกิดรอยแผลเป็นง่าย ต้องไม่แกะบีบสิว ใช้ครีมรักษาแต้มที่หัวสิว หลังจากสิวหายแล้วใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เช่น วิตามินอี เพื่อรักษารอยแผลเป็น
4.ผิวสาวเอเชียมีปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เซลล์ผิวหนังของคนเรามีปริมาณของเม็ดสีผิวหรือเมลานินแตกต่างกันไป เมลานินช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากรังสียูวี เห็นได้ชัดว่าคนผิวคล้ำเกิดจากเซลล์ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินมากขึ้นและคนผิวพรรณขาวมีเม็ดสีเมลานินน้อยลง ขณะที่การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าชาวเอเชียมีเม็ดสีเมลานินที่ทำหน้าที่ในการป้องกันอันตรายจากแสงมากกว่า ชี้ให้เห็นว่าผิวคนเอเชียมีเม็ดสีเมลานิน 3 ชั้น จึงมีปัญหาความผิดปกติของเม็ดสีมากขึ้น เช่น รอยดำ ฝ้า กระ ริ้วรอยและแผลเป็น เมื่อเทียบกับกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ด้วยเหตุนี้จึงเห็นเครื่องสำอางมากมายในเอเชียที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิวใหม่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและขาวมากขึ้น เพราะว่าผิวหนังมีความอ่อนไหวจึงต้องเพิ่มการปกป้องจากแสงแดดมากขึ้นเช่นกัน
5.ผิวสาวเอเชียสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย
ผิวของคนเอเชียสูญเสียความชุ่มชื้นมากกว่าชนชาติอื่น ๆ จากรายงานแพทย์ผิวหนังที่ทำการตรวจสภาพผิวและวัดความชื้นสูญเสียออกจากร่างกาย ซึ่งไม่ได้เกิดจากการขับเหงื่อ แสดงให้เห็นว่าผิวชาวเอเชียสูญเสียความชื้นสูงสุด หากผิวของคุณไม่มีความชื้นเพียงพอ จะเกิดอาการผิวแห้ง คันและแตกลายได้ จำเป็นต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวเป็นประจำ เพื่อรักษาสมดุลและเก็บกักความชุ่มชื้นของผิวมากขึ้น แนะนำครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำ เช่น กรดไฮยาลูโรนิค
6.ผิวมันและเกิดสิวง่าย
ผิวชาวเอเชียมีต่อมไขมันมากกว่าผิวชาวยุโรป ผิวมีความชุ่มชื้น เนื่องจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน ประการแรกสาเหตุของผิวมันและหนังศีรษะมันเยิ้มเพราะต่อมไขมันผลิตน้ำมันมาก การผลิตน้ำมันเป็นกระบวนการทางธรรมชาติทำให้ผิวนุ่มนวลและเรียบเนียน เมื่อผิวมีต่อมไขมันมาก จะสร้างน้ำมันส่วนเกิน บวกกับความชื้นในอากาศกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากเกิน เป็นสาเหตุให้ผิวมัน เมื่อผสมกับ เหงื่อ ฝุ่นละออง ความสกปรก และการสะสมของขี้ไคล ทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่าย เกิดการอักเสบเป็นสิว ควรเอาใจใส่ขัดผิวสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่เข้มข้นรุนแรง เลือกสูตรอ่อนโยนที่จะขจัดสิ่งสกปรก ความมันส่วนเกิน และขี้ไคลตามธรรมชาติออกไปทำให้ผิวสะอาดสดชื่น นุ่มนวลน่าสัมผัสมากขึ้น
ทุกสภาพผิวมีเม็ดสีผิวเมลานินทำให้ผิวมีหลายสีและยังมีหน้าที่ป้องกันผิวจากรังสียูวีจากดวงอาทิตย์ ปริมาณเมลานินที่ผลิตขึ้นจะแตกต่างกันไป ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าผิวเอเชียมีเมลานินมากกว่า ทำให้มีความผิดปกติของเม็ดสีมากกว่าด้วย เช่น รอยดำ ฝ้า กระ ริ้วรอยตามวัย เพราะผิวเอเชียต้องการการเอาใจใส่เป็นพิเศษ อย่าลืมปกป้องผิวจากแสงแดด ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 15-30 ขึ้นไป เมื่อคุณวางแผนที่จะออกไปข้างนอกควรสวมเสื้อแขนยาว หมวกปีกกว้าง และแว่นตากันแดด ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาวิธีดูแลผิวที่เหมาะสมกับผิวของตนเอง