ปัจจุบันปัญหาผื่นแดง ผิวระคายเคือง คัน ผิวหนังอักเสบและเป็นสิว สาเหตุจากโรคภูมิแพ้ผิวหนังเป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ เกิดจากสาเหตุและแสดงอาการที่แตกต่างกันไป โดยมากเกิดจากกรรมพันธุ์และสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลภาวะ ไม่ว่าจะแสงแดด ฝุ่น เชื้อรา หรือแม้แต่อาหารที่รับประทานเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายอ่อนแอและแสดงอาการผิวแห้งอักเสบบริเวณใบหน้าและร่างกาย หากระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอยิ่งเพิ่มโอกาสป่วยด้วยโรคผื่นภูมิแพ้มากขึ้น
โรคภูมิแพ้ทางผิวหนังมีสาเหตุจากอะไรบ้าง
1.กรรมพันธุ์
อาการภูมิแพ้ภายในครอบครัวพบได้บ่อยเพราะมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากพ่อแม่ เป็นภาวะความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย หากพ่อแม่ทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นภูมิแพ้ ลูกมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ตามกรรมพันธุ์ 30 % – 50% ถ้ามีอาการของโรคภูมิแพ้ทั้งทางฝ่ายพ่อและแม่ ลูกมีความเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังมากขึ้นถึง 70% ปัญหาที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ แต่ถ้ารู้แล้วว่าเป็นโรคภูมิแพ้จะสามารถป้องกันไม่ให้ร่างกายพบกับสารกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ได้ อาการภูมิแพ้สังเกตได้ง่ายจากระบบทางเดินหายใจ ร่วมกับปัญหาภูมิแพ้ทางผิวหนังและลมพิษ หากไม่มีสารก่อภูมิแพ้สิ่งใดมากระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบอย่างรุนแรง จะเห็นว่าผิวหนังของคนที่มีอาการภูมิแพ้มักจะผิวแห้งและระคายเคืองง่าย เมื่อสัมผัสกับบางอย่างที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้จะเกิดตุ่มน้ำใสบนผิวหนังหรือเป็นผดผื่นสีแดง ผิวหนังเป็นปื้นนูน อาจมีอาการคันทำให้เกาบ่อยจนกระทั่งผิวลอกและตกสะเก็ด เกิดเป็นรอยแผลเป็นและริ้วรอยตามมา ผิวหน้าและผิวหนังส่วนต่าง ๆ เป็นแผลไม่เรียบเนียนสวย หรือแม้แต่การติดเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนังทำให้เป็นสิวและผิวอักเสบบ่อย ๆ ก่อปัญหารูขุมขนกว้างมากขึ้นไปอีก
2.สิ่งแวดล้อม
อาการภูมิแพ้จะรุนแรงขึ้นเมื่อสัมผัสกับสารกระตุ้นภูมิแพ้จากสภาพแวดล้อมรอบตัวเรา ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้คนเป็นโรคภูมิแพ้อยู่ยากขึ้นทุกวัน ชีวิตต้องเผชิญกับมลภาวะรอบด้านทั้งสภาพอากาศ ฝุ่นควัน รังสี UV จากแสงแดด ไรฝุ่น สารเคมีจากเครื่องสำอางผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ผสมแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี และสิ่งเร้าอาการภูมิแพ้อื่น ๆ เช่น การแพ้ขนของแมว สุนัข หรือเกสรดอกไม้ แมลงสัตว์กัดต่อย ล้วนแต่เป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ได้ทั้งสิ้น อาการลมพิษและผื่นบนผิวหนังพบได้บ่อยจะหายไปได้เองใน 4 – 6 ชั่วโมง วิธีการรักษา แพทย์จะตรวจสอบแต่ละอาการที่แตกต่างกันไป วิเคราะห์ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และรักษาไปตามอาการ
3.อาหารทะเล
อาหารเป็นอีกสาเหตุที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ผิวหนัง โดยมากพบว่าผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอมักจะแพ้อาหารทะเลมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานหรือแม้แต่สัมผัสภายนอก เช่น กุ้ง ปู ปลาหมึก หอยนางรม และสัตว์น้ำจืดบางชนิด รวมถึงอาหารประเภทโปรตีนที่ย่อยยาก มีระดับอาการรุนแรงแตกต่างกันไปตั้งแต่อาการคัน เป็นผื่นแดงตามผิวหนัง อาการบวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลำคอ หู ฝ่ามือ นิ้วมือ ลมพิษ บางรายปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ เกิดอาการเป็นระยะเวลาหลายนาทีหรือเป็นชั่วโมง ในรายที่มีอาการแพ้เฉียบพลันและรุนแรงอาจหายใจไม่ออก หมดสติ ความดันโลหิตลดต่ำ มีอาการช็อก ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต
หลายคนเกิดอาการภูมิแพ้อาหารบางชนิดตั้งแต่วัยเด็ก ที่พบมากคือแพ้อาหารประเภทไข่ นมวัว อาหารทะเล และแป้งสาลี ส่วนอาการแพ้อาหารบางอย่างอาจจะไม่เกิดอาการตั้งแต่เด็ก เริ่มเกิดการแพ้เมื่อร่างกายอ่อนแอลง ระบบภูมิคุ้มกันกระตุ้นให้เกิดการแพ้ หรืออายุมากขึ้นเป็นสาเหตุของอาการแพ้ที่เกิดขึ้นในภายหลัง สังเกตได้ว่าการแพ้อาหารจะพบมากในผู้ป่วยที่มีคนในครอบครัวแพ้อาหารมาก่อนโดยเฉพาะแพ้อาหารทะเล วิธีการรักษา แพทย์จะสอบถามอาการและตรวจร่างกายเบื้องต้น จากนั้นดูแลแก้ไขไปตามอาการ ทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังและตรวจเลือดหาแอนติบอดีต่อสารก่อภูมิแพ้ มักรักษาด้วยการรับประทานยาแก้แพ้ หรือถ้าแสดงอาการแพ้รุนแรงควรนำตัวส่งห้องฉุกเฉินทันที แพทย์จะฉีดยาแก้แพ้ให้อย่างเร่งด่วน
4.อากาศเปลี่ยนกะทันหัน
โรคภูมิแพ้อากาศเป็นอาการที่พบได้บ่อยเนื่องจากการกระตุ้นเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหัน มีผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่สามารถปรับตัวรับอากาศที่ร้อนหรือหนาวกะทันหัน โดยมากเกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนฤดู ปลายฝนต้นหนาวทำให้อากาศหนาวเย็นอย่างฉับพลัน หรือภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงก่อนฝนตกซึ่งจะร้อนจัดก่อนที่อุณหภูมิจะลดลงเฉียบพลัน อาการภูมิแพ้อากาศมักจะเกิดรอยแดง ผิวขึ้นผดผื่นคล้ายลมพิษแผ่ขยายทั่วร่างกาย หรือแสดงอาการบวมบนผิวหนัง แต่จะเป็นไม่นาน ความรุนแรงของอาการแตกต่างกันไปในแต่ละคน โดยมากอาการผื่นจะหายไปเองในเวลาแตกต่างกันไป แนะนำให้ใช้ยาทาผิวหนังรักษาผิวให้ชุ่มชื้นไม่แห้งและระคายเคืองเนื่องจากภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยมากแพทย์จะสอบถามอาการและตรวจร่างกายเบื้องต้น เพื่อให้แน่ใจว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และแก้ไขไปตามอาการ
5.ผิวอ่อนแอขาดไขมัน
ผิวหนังของคนเรามีสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ หากผิวหนังอ่อนแอจะเกิดโรคทางภูมิคุ้มกันได้ง่าย ผิวแห้งกร้าน มีอาการคันเกิดการอักเสบรุนแรง ควรดูแลผิวให้แข็งแรง บำรุงครีมสม่ำเสมอเพื่อป้องกันผิวจากสิ่งเร้าต่าง ๆ โดยเฉพาะผิวที่ขาดไขมันจำเป็นอย่างเซราไมด์ (Ceramide) และกรดไขมัน วิธีการรักษาจะเน้นการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ดื่มน้ำให้เพียงพอ ทาครีมบำรุงผิวฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้งรุนแรงและสร้างเกราะป้องกันผิวไม่ให้เชื้อแบคทีเรียแพร่เข้าสู่ผิวได้ง่าย
โรคผื่นภูมิแพ้เกิดขึ้นง่ายเนื่องจากสภาพแวดล้อมในปัจจุบันเต็มไปด้วยมลภาวะและความเสี่ยงจากร่างกายอ่อนแอลง การพักผ่อนไม่เพียงพอ และการสูบบุหรี่เพิ่มโอกาสในการป่วยด้วยโรคภูมิแพ้มากขึ้น เมื่อมีอาการผื่นและผิวหนังอักเสบ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าผิวหนังแพ้สารอะไรบ้าง ทุกวันนี้เราใช้สารเคมีในชีวิตประจำวัน ทั้งเครื่องสำอาง ผงซักฟอก ตลอดจนอาหารการกินไม่สะอาดปลอดภัย แพทย์จะรักษาไปตามอาการและความรุนแรงของโรค รวมถึงตรวจสอบให้รู้ว่าแพ้สารกระตุ้นชนิดใดและแนะนำให้เลี่ยงสารก่อภูมิแพ้เหล่านั้น