หยุดปัญหาผิวแห้ง ล็อกผิวชุ่มชื้นยาวนาน
ผิวหนังอักเสบ ผื่นภูมิแพ้ สาเหตุและวิธีการรักษา
1 กันยายน 2562
รับมือกับปัญหาผิวหน้าฝน เรื่องที่หลายคนมองข้าม
1 กันยายน 2562
ผิวแห้งตึง รู้สึกคัน ไม่สบายผิว เกิดขึ้นได้เป็นปกติกับคนผิวธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว ปัญหาเกิดจากหลายสาเหตุทั้งปัจจัยภายในและภายนอก สาเหตุของปัญหาอาจมีมากกว่าหนึ่งอย่าง เช่น พันธุกรรม อาบน้ำอุ่น ขัดผิวบ่อยเกินไป สภาพแวดล้อมและมลภาวะ เพราะผิวเป็นส่วนสำคัญช่วยปกป้องมลภาวะและสิ่งสกปรกเข้าสู่ร่างกาย ผิวแห้งมากจะมีแนวโน้มแพ้ง่าย เกิดอาการระคายเคืองและแพ้เครื่องสำอาง สบู่ และสารก่อการระคายเคือง ทำให้ผิวอักเสบและแดง หากคุณอยากบอกลาผิวแห้งรบกวนใจ ควรทำอย่างไร ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับการดูแลผิวแห้งและสร้างสมดุลธรรมชาติที่ดีสำหรับผิวคุณ ลดอาการแห้งตึงและปลอบประโลมผิวให้กลับมานุ่มนวลมีชีวิตชีวาดูอ่อนกว่าวัย
ปัญหาผิวแห้งเกิดจากปัจจัยภายใน มีดังนี้
1.ผิวแห้งจากการถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรม เป็นปัญหาที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่การดูแลอย่างถูกวิธีและปกป้องผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอจะช่วยลดปัญหาผิวขาดน้ำ ทาครีมบำรุงเป็นประจำเพื่อรักษาสมดุลให้ผิวแข็งแรง ไม่แพ้ง่าย
2.ผิวแห้งจากอายุที่มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ปริมาณอีลาสตินและคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิวหนังลดลงโดยอัตโนมัติส่งผลให้ผิวแห้ง ไม่กระชับ หย่อนคล้อย ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นรวดเร็วกว่าปกติ ปัญหาผิวแห้งแย่ลงและรุนแรงมากขึ้น ควรดูแลตัวเองให้มีสุขภาพผิวที่ดี
ปัญหาผิวแห้งเกิดจากปัจจัยภายนอก มีดังนี้
1.สภาพอากาศเย็น
ทำให้ผิวแห้งกร้าน แตกลอกเป็นขุย การอาบน้ำอุ่นช่วยคลายหนาว ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นภายหลังอาบน้ำ แต่การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นบ่อย ๆ หรืออาบน้ำนานเกินไป น้ำอุ่นจะชะล้างไขมันบนผิวหนังส่งผลให้ผิวต้องสูญเสียน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้งตึงและระคายเคือง รูขุมขนใหญ่ขึ้น ตรวจสอบทุกวันเวลาที่อาบน้ำอุ่นไม่ควรนานเกิน 10-15 นาที เลือกใช้สบู่และผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนเพื่อลดความเสี่ยงผิวแห้งแตกและรูขุมขนกว้างขึ้น หลังจากอาบน้ำอุ่น ควรทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้งมากกว่าเดิม
2.การขัดผิว
ข้อดีของการสครับช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป เพื่อกระตุ้นให้สร้างผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน แต่การดูแลผิวผิดวิธีทำให้ผิวสูญเสียสมดุลและขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากการผลัดเซลล์ผิวบ่อยเกินไปทำให้ผิวซ่อมแซมไม่ทันเวลา แทนที่จะได้ผิวใหม่ซึ่งนุ่มชุ่มชื้น กลับเป็นการเสียดสีกับผิวทำให้เกิดการระคายเคือง อักเสบแดง ลอกเป็นขุย ผิวแห้งกร้านมากขึ้น ควรขัดผิวสัปดาห์ละครั้งถือว่าเพียงพอแล้ว
3.ล้างหรือเช็ดหน้ารุนแรง
หลีกเลี่ยงการเช็ดผิวด้วยผ้าเช็ดตัวแรง ๆ ที่เสี่ยงต่อการระคายเคืองผิวหนัง หลังจากขัดผิว ให้ใช้น้ำเย็นปิดรูขุมขนและปรับสมดุลของผิวหนัง ทาโลชั่นบำรุงผิวหลังอาบน้ำในตอนเช้าและก่อนนอนเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
4.เลือกมอยส์เจอไรเซอร์ไม่เหมาะสม
โลชั่นเพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อปกป้องผิวที่อ่อนแอและลดการสูญเสียน้ำจากผิวหนัง ควรเลือกครีมบำรุงผิวที่เหมาะกับผิวแห้ง ประเภทที่มีซิลิโคนชนิดเบาปกป้องผิวยาวนาน ทาแล้วสบายผิว ไม่รู้สึกเหนอะหนะ ช่วยเก็บกักน้ำไว้ทำให้ผิวชุ่มชื้น ผสมน้ำแร่ และสารบำรุงผิวอื่น ๆ ที่เป็นมิตรกับผิว หลีกเลี่ยงโลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือมีสีสังเคราะห์เจือปนอยู่ที่อาจก่ออาการแพ้และระคายเคืองผิว
5.ห้ามใช้ครีมลดริ้วรอยก่อนวัย
ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยเป็นของต้องห้ามสำหรับผิวแห้ง แต่เหมาะกับผิวธรรมดา ผิวมัน หรือผิวผสม ถ้าคุณจำเป็นต้องใช้ครีมลดเลือนริ้วรอยช่วยกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ว่าไม่มีกรดเรตินอยด์หรือ AHA เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้ถือว่าเป็นสารผลัดเซลล์ผิวที่ระคายเคืองต่อผิวแห้ง
6.อาหารบำรุงผิว
การบำรุงผิวจากภายในคือการรับประทานอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพ อาหารเสริมเป็นเรื่องสำคัญ เช่น น้ำมันปลาบางชนิดที่มีกรดโอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายใน เติมคอลลาเจนและอีลาสตินทำให้ผิวชุ่มชื้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่ฮอร์โมนและผิวเปลี่ยนแปลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ควรเริ่มต้นบำรุงผิวเป็นประจำตั้งแต่อายุเข้าวัย 30
7.รักษามือและเท้าให้นุ่มชุ่มชื้น
เมื่ออากาศหนาวเย็น ปัญหาผิวแห้งมักเกิดบริเวณมือ เท้า และหน้าแข้ง ผิวแตกและอักเสบง่ายโดยเฉพาะบริเวณมือที่ต้องล้างบ่อย ๆ ทำให้ผิวแห้งตึงมากขึ้น ทาครีมบำรุงผิวที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผิวแห้ง สวมถุงมือและถุงเท้าป้องกันไม่ให้มือและเท้าแห้ง
เลือกสกินแคร์สำหรับผิวแห้งโดยเฉพาะ
ก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวควรอ่านสรรพคุณของครีมก่อนว่าเหมาะกับผิวแห้งหรือไม่ ไม่เสี่ยงกับสารเคมีหลายชนิดที่อาจระคายเคืองสำหรับผิวบอบบาง เนื้อครีมเพิ่มความชุ่มชื้นและกักเก็บน้ำไว้ได้ยาวนาน พร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ยกกระชับและลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยให้ดูตื้นขึ้นโดยไม่ทำให้ก่อความระคายเคือง ถ้าคุณมีผิวบอบบาง ควรขัดผิวได้สัปดาห์ละครั้งเดียวเท่านั้นเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและเหมาะกับผิวแห้ง การทาครีมกันแดดมีความสำคัญมาก เพราะรังสี UV จากดวงอาทิตย์ทำให้เกิดริ้วรอยและผิวแห้งมากขึ้น การบำรุงผิวสม่ำเสมอและทาครีมกันแดดเป็นประจำช่วยให้ผิวแห้งดูอ่อนเยาว์ โดยเลือกระดับ SPF ที่เหมาะสมสำหรับผิว หากไม่แน่ใจควรขอคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนังก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด รีบบำรุงตั้งแต่ตอนนี้จะเห็นผลดียิ่งขึ้น บอกลาปัญหาผิวแห้งกวนใจพร้อมกับช่วยคุณต่อกรกับอายุที่มากขึ้นทุกวัน
