เช็คสภาพผิว อยากรู้ผิวของคุณเป็นแบบไหนต้องอ่าน
สาเหตุของจุดด่างดำและกระบนใบหน้าและผิวกาย
1 กันยายน 2562
สุขภาพผิวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงทุกคน ควรตรวจเช็คให้รู้ว่าสภาพผิวเป็นอย่างไร เพราะการบำรุงผิวสวยมีสุขภาพดีต้องรู้จักผิวของตนเป็นอันแรก จึงจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณให้เหมาะกับประเภทผิวมากที่สุด โดยทั่วไปแบ่งประเภทผิวออกเป็น 5 แบบ ได้แก่ ผิวธรรมดา , ผิวแห้ง , ผิวมัน , ผิวผสมและผิวบอบบางแพ้ง่าย ด้วยความแตกต่างระหว่างผิวแต่ละประเภท ผิวจึงต้องการการบำรุงดูแลให้เหมาะสมแตกต่างกันด้วยการเลือกเครื่องสำอางสูตรสำหรับผิวนั้น ๆ เพื่อให้การบำรุงเป็นไปได้อย่างล้ำลึกและมีประสิทธิภาพ ทั้งยังป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียตามมาภายหลัง เช่น ผิวเป็นสิว , ระคายเคืองหรือผิวแห้งแตกเป็นขุย …การเช็คสภาพผิวมีวิธีง่ายๆ ในการระบุประเภทผิวของคุณ ดังต่อไปนี้
สังเกตผิวจากกระจก การส่องกระจกเพื่อสังเกตลักษณะของผิวหน้า ถ้าเห็นรอยผื่นแดงที่เป็นรอยแผลเป็นทั่วใบหน้า นั่นแปลว่าคุณมีผิวแห้งหรือผิวบอบบาง หากใบหน้าของคุณเป็นมันวาวทั่วผิวหน้า แสดงว่าคุณมีผิวมัน แต่ถ้าผิวมันวาวเฉพาะบริเวณหน้าผากและจมูก เว้นผิวแก้มที่แห้งเป็นขุย หมายความว่าคุณมีผิวผสม
พิจารณาจากขนาดรูขุมขน ผิวธรรมดาจะมองเห็นรูขุมขนได้ชัด แต่ไม่ใหญ่ ลองก้าวห่างจากกระจกสองสามก้าว หากยังคงเห็นรูขุมขนอยู่แสดงว่าคุณมีผิวมัน ถ้ามองรูขุมขนแทบไม่เห็น แสดงว่ามีผิวแห้ง ส่วนผิวผสมจะมีรูขุมขนบนใบหน้ามากกว่าหนึ่งขนาด คือมีทั้งผิวแห้งและผิวมัน ต้องดูแลแต่ละส่วนแตกต่างกัน
สังเกตจากความรู้สึกหลังล้างหน้า ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้ง จะรู้สึกว่าใบหน้าตึงหลังการทำความสะอาด ลองหยิกผิวเบาๆ จะเห็นว่าผิวมีริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย ถ้าคุณเป็นคนผิวมัน จะรู้สึกว่าหน้าสะอาดขึ้นทันทีหลังล้างหน้า หยิกแก้มแล้วยังเห็นผิวเรียบเนียน ส่วนคนผิวผสมจะรู้สึกหน้าสะอาดบริเวณ T-zone แต่แก้มแห้งตึง กรณีที่ผิวบอบบาง อาจเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าบางชนิด อาจทำให้เกิดอาการคันหรือผื่นคันได้ หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าสูตรผิวบอบบางจะทำให้ผิวเย็นและชุ่มชื่นขึ้น แต่ถ้าผิวของคุณไม่อยู่ในเกณฑ์ข้างต้นเลย แสดงว่าเป็นคนผิวธรรมดา
เตรียมสภาพผิวให้พร้อมก่อนทดสอบ
หากยังไม่แน่ใจว่าผิวตนเป็นผิวประเภทใด สามารถเช็คได้ด้วยการทดสอบ โดยเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมด ล้างหน้าขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมัน แนะนำให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เทน้ำยาทำความสะอาดใบหน้าสูตรอ่อนโยนลงในฝ่ามือ ค่อยๆ นวดหน้าด้วยปลายนิ้วให้ทั่ว ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นจากนั้นใช้ผ้าเช็ดตัวหรือผ้าเนื้อนุ่มเช็ดซับให้แห้ง (หลีกเลี่ยงการล้างหน้ามากเกินไปเพราะทำให้ผิวแห้งกร้าน เกิดการระคายเคืองหรือกระตุ้นต่อมผลิตไขมันให้หน้ามันเพิ่มขึ้นอีก) รอประมาณ 1 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนใบหน้าด้วย จากนั้นทดสอบด้วยกระดาษทิชชูหรือกระดาษซับมัน ลองแตะบริเวณ T-zone คือส่วนหน้าผากและจมูก ดูว่ามีคราบน้ำมันหรือไม่
1.ผิวธรรมดา
หลังเช็ดหน้าแล้ว กระดาษทิชชูเป็นปกติ หลังล้างหน้ารู้สึกว่าผิวสะอาดและเรียบเนียน อาจมีความมันเล็กน้อยบริเวณหน้าผาก , จมูก , คางและแก้ม ถือว่าโชคดีมากเพราะผิวธรรมดาบำรุงดูแลง่าย แทบไม่พบปัญหาผิวแห้ง เป็นสิว หรือผิวหมองคล้ำ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสม่ำเสมอจะช่วยชะลอความเสื่อมตามวัย ผิวหน้ากระชับ อ่อนนุ่ม ดูอ่อนกว่าวัยมากกว่าผิวประเภทอื่น
2 ผิวแห้ง
ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้ง เช็ดหน้าแล้วกระดาษทิชชูสะอาด ไม่มีรอยน้ำมันเช่นกัน แต่ความรู้สึกต่างกัน คือรู้สึกได้เลยว่าหน้าตึง , ไม่สบายผิว , ผิวไม่ยืดหยุ่นและอาจลอกเป็นขุย เห็นได้ชัดเวลาอากาศแห้ง สัมผัสแล้วหน้าไม่เรียบ เกิดริ้วรอยและระคายเคืองได้ง่าย ยิ่งอายุมากขึ้น สภาพผิวแห้งจะเกิดริ้วรอยชัดเจนกว่าผิวแบบอื่น ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าให้ตรงกับสภาพผิวเพื่อเก็บความชุ่มชื่น ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเป็นประจำช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้
3.ผิวมัน
สังเกตง่ายจะเห็นรอยน้ำมันชัดเจนบนทุกส่วนของใบหน้า โดยเฉพาะหน้าผาก , จมูกและคาง อาจเกิดปัญหารูขุมขนอุดตันกลายเป็นสิวเรื้อรัง ยิ่งล้างหน้าบ่อยจะกระตุ้นให้หน้ามันมากขึ้นอีก แต่การดูแลไม่ยากอย่างที่คิด ควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับผิวมันโดยเฉพาะ ใช้เครื่องสำอางประเภทออยล์ฟรี บำรุงมอยเจอไรเซอร์สูตรกลางคืนก็เพียงพอแล้ว อาจทาครีมลดอาการผิวอักเสบเป็นสิวร่วมด้วย ผิวมันที่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง จะไร้ปัญหาเรื่องริ้วรอยจุดด่างดำจากสิว และมีอายุผิวอ่อนเยาว์ได้เช่นกัน
4.ผิวผสม
เช็ดหน้าแล้วมีความมันบริเวณหน้าผาก จมูกและคาง ผิวแก้มสะอาดแต่อาจรู้สึกแห้งตึง ไม่สบายผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้เหมาะสมกับแต่ละส่วนบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณแก้มและรอบดวงตา ต้องบำรุงให้ชุ่มชื่นเพื่อลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ส่วนผิวบริเวณ T-zone ควรดูแลผิวให้สะอาดและไม่มันในช่วงเวลากลางวัน
5.ผิวบอบบางแพ้ง่าย ผิวแห้งมีแนวโน้มแพ้ง่าย ผิวบอบบางยิ่งต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ก่ออาการระคายเคือง ป้องกันผิวอักเสบเป็นรอยแดงซึ่งเป็นสาเหตุของสิวหรือผิวลอก ทำให้เกิดรอยขรุขระ ผิวไม่เรียบ หรือมีอาการแห้งคันร่วมด้วย การใช้เครื่องสำอางควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมน้ำหอมและแอลกอฮอล์ ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์รักษาความชุ่มชื้นของผิวเป็นประจำ พร้อมปกป้องจากปัจจัยภายนอกที่ทำร้ายผิวให้เสียสมดุล
สอบถามแพทย์ผิวหนัง หากคุณยังไม่มั่นใจว่าผิวเป็นแบบไหนกันแน่ ควรสอบถามแพทย์ผิวหนังที่สามารถให้คำตอบได้ชัดเจน มีผลิตภัณฑ์ทดสอบบางชนิดที่เคาน์เตอร์ยาและเครื่องสำอางเพื่อวิเคราะห์ให้รู้ว่าสภาพผิวของคุณเป็นแบบไหน เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพผิว ใครที่ใช้ผลิตภัณฑ์ผิดประเภทมาตลอดจะแก้ปัญหาได้ตรงจุด เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว หมดปัญหาผิวแห้ง ระคายเคือง หรือผิวมันจนเกิดสิวและจุดด่างดำ ทำให้สภาพผิวดูดีและอ่อนเยาว์อย่างที่สาวทุกวัยปรารถนา
